จากกรณีที่โชเฟอร์แท็กซี่ เมาขับชน ร.ต.ต.อัสดา จำเนียรศรี รอง สว.(จร.) สน.บางเขน ผู้เสียชีวิตขณะยืนโบกรถงานวิ่งการกุศลดับคาที่เมื่อวัน 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น 

ล่าสุด วันที่ 30 เม.ย.67 เวลา 18.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่วัดพรพระร่วงประสิทธิ์ แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม. บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความโศกเศร้าของญาติ พี่น้อง และเพื่อนร่วมงาน ที่เดินทางมาฟังสวดพีะอภิธรรมศพ

ทั้งนี้นายวราบุตร์  อายุ 40 ปี คนขับแท็กซี่ผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางมาพร้อมกับครอบครัว เพื่อขอเข้าไปเคารพศพ ร.ต.ต.อัสดา จำเนียรศรี รอง สว.(จร.) สน.บางเขน โดยนายวราบุตร์ ได้ตัดผมให้สั้นจากเดิม สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำ มารอเข้างานโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางเขนเข้าพูดคุย จากนั้นนางเบญจวรรณ จำเนียนศรี ภรรยา ร.ต.ต.อัสดา ได้เดินออกมาต้อนรับ เมื่อทั้งคู่เจอกัน นายวราบุตร์ได้ก้มลงคุกเข่ากราบในทันที ก่อนจะพากันเข้าไปภายในงาน

โดย นายวราบุตร์ ได้นำพวงมาลัยที่เตรียมมา ไปกราบขอขมาศพก่อนจะมากราบภรรยา รวมถึงแม่ของร.ต.ต.อัสดา  ซึ่งได้มีการพูดคุยกันเล็กน้อย ซึ่งทั้งคู่ได้มีการพูดคุยกันด้วยความโศกเศร้าอยู่ตลอดเวลา โดยทางภรรยาร.ต.ต.อัสดา ได้กล่าวอโหสิกรรมให้ และให้ผู้ก่อเหตุใช้ชีวิตอย่างมีสติให้มากกว่านี้ ซึ่งพ่อของนายวราบุตร์ ยังได้มานั่งก้มกราบแม่ของร.ต.ต.อัสดา ด้วย

ทั้งนี้ทางครอบครัวนายวราบุตร์  ได้แจ้งความประสงค์ขอฟังสวดพระอภิธรรมศพ ซึ่งทางภรรยาร.ต.ต.อัสดา ขอทางครอบครัวนายวราบุตร์ กลับไปก่อนเนื่องจากยังไม่สะดวกและญาติยังทำใจไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น จากนั้นครอบครัวนายวราบุตร์ก็ได้เดินทางกลับไป และไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน 

ด้านภรรยา ร.ต.ต.อัสดา เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุติดต่อมาเพื่อเดินทางมาขอโทษ และขอเข้ามาเคารพศพ ซึ่งนายวราบุตร์ ได้ยอมรับผิด ตนเองก็เสียใจ ไม่รู้จะพูดอะไรกับเขา นายวราบุตร์ ยังกล่าวกับตนว่าจะช่วยเหลือด้านการศึกษา ของลูกสาวคนเล็ก แต่ก็ยังไม่ได้คุยในรายละเอียดกัน  

และวันนี้ผู้ก่อเหตุ ได้ขออยู่ฟังสวดด้วย แต่ทางญาติยังรับเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ จึงขอให้เขากลับไปก่อน รวมถึงผู้ก่อเหตุจะขอมาร่วมงานเผา และบวชหน้าไฟให้ ซึ่งเรื่องนี้ ตนจะขอคุยกันภายในอีกครั้ง ทั้งนี้ตนได้บอกกับผู้ก่อเหตุด้วยว่า เราไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว แฟนเราไม่สามารถกลับมาได้แล้ว หลังจากนี้เขาเองต้องมีสติ ต้องใช้สติในการนำเดินชีวิตให้มากกว่านี้