วันที่ 2 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีคุณภาพอากาศ AQI ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ถือว่าหนักที่สุด ทุกพื้นที่หมอกควันปกคลุมหนาทึบ ทัศนวิสัยการมองเห็นต่ำกว่า 6 กิโลเมตร ทั้งนี้ผลพวงที่เกิดหมอกควันรุนแรงเนื่องจาก มีการเผาในที่โล่ง โดยจากข้อมูลสำนักพัฒนาเทคโนโลยีอาวกาศและภูมิสารสนเทศ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พบว่า จังหวัดเชียงรายตรวจพบจุดความร้อนเฉพาะวันที่  1 พฤษภาคม 2567 มากถึง 315 จุด จากวันที่ 30 เมษายน 2567 มี 140 จุด เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

ขณะที่ กรมควบคุมมลพิษ รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงราย เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 พฤษภาคม 2567  อำเภอเชียงของ คุณภาพอากาศหนักที่สุด โดย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ดัชนีคุณภาพอากาศ AQI วัดได้ 252 ค่าฝุ่น  PM2.5 วัดได้ 126.1 ไมโครกรัมต่อลูกบากศ์เมตร อำเภอแม่สาย ดัชนีคุณภาพอากาศ AQI วัดได้ 241 ค่าฝุ่น PM2.5 วัดได้  115.7 ไมโครกรัมต่อลูกบากศ์เมตร อำเภอเชียงของ ดัชนีคุณภาพอากาศ AQI วัดได้ 362 ค่าฝุ่น  PM2.5 วัดได้ 236.1 ไมโครกรัมต่อลูกบากศ์เมตร ซึ่งอำเภอเชียงของ พบว่าเกิดไฟป่าในพื้นที่ประเทศ สปป.ลาว เป็นบริเวณกว้าง ทำให้มีคววันลอยเข้ามาปกคลุมมากขึ้นเรื่อย ๆ 

อย่างไรก็ตาม การเกิดไฟป่า และการเผาในที่โล่งของจังหวัดเชียงราย ที่มากขึ้น เนื่องจากหมดระยะเวลาการห้ามเผาในที่โล่ง 76 วัน ซึ่งสิ้นสุด 30 เมษายน  2567 ถึงแม้ว่าจังหวัดเชียงราย จะยังคงประกาศการจัดการเชื้อเพลิง ระหว่าง 1-30 พฤษาคม 2567 หรือการควบคุมการเผาเป็นห่วงเวลาและบริหารจัดการ 18 อำเภอ ว่าจะเป็นช่วงใดเวลาใดหรือวันไหน แต่พบว่าการจุดความาร้อน หรือการเผาที่โล่ง กลับเกิดขึ้นพร้อม ๆ กันในหลายพื้นที่