ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ, พ.ต.ท.ธนศักดิ์ สว่างศรี,พ.ต.ท.สมเดช สาระบรรณ์, พ.ต.ท.อภิชน ขันกา, พ.ต.ท.พชรเดช บุญฤทธิ์ รอง ผกก.1 บก.ป.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.ธนบดี ดวงจิตต์ สว.กก.1 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ
กก.1 บก.ป.ร่วมกันจับกุม นายศูนย์จันทร์ อายุ 57 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 297/2567 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น” สถานที่จับกุม บริเวณริมถนนสุขุมวิท นครระยอง 39 ต.ท่าประดู่ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง


 
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการติดต่อจากสมาคมผู้ค้าอัญมณีให้ติดตามจับกุมผู้ต้องหาซึ่งได้ร่วมกันลักเอาเพชรน้ำหนัก 3 กะรัต มูลค่าประมาณ 2.2 ล้านบาท โดยผู้ต้องหาได้ออกอุบายทำทีเป็นนายหน้าติดต่อขอดูเพชรกับผู้เสียหาย โดยอ้างว่ามีผู้ซื้อสนใจจะซื้อเพชรน้ำหนัก 3 กะรัตโดยขอนัดหมายตรวจสอบดูสินค้ากันที่บริเวณร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ต่อมาเมื่อถึงวันนัดหมาย ในระหว่างที่ผู้ต้องหาทำหน้าที่เป็นนายหน้าพูดคุยกับผู้เสียหายอยู่นั้น ผู้ต้องหาอีกคนที่ทำหน้าที่เป็นผู้ซื้อ ได้นำเอา
เพชรปลอมที่เตรียมมาสลับกับของจริง จากนั้นได้บอกกับผู้เสียหายว่า ยังไม่สนใจซื้อและเก็บเพชรใส่ซองส่งคืนให้ผู้เสียหายก่อนจะออกจากร้านไป จนกระทั่งผู้เสียหายมาทราบภายหลังว่า เพชรที่เอาไปให้ตรวจสอบถูกสลับกับเพชรปลอม จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาดังกล่าว เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ยานนาวา ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้ทั้ง 2 ราย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปรามได้ติดตามสืบสวนจนสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้ โดยผู้ต้องหาซึ่งทำหน้าที่เป็นนายหน้าได้ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 1 เม.ย.67 โดยหลบหนีไปอยู่ในพื้นที่จังหวัดตราด ส่วนนายศูนย์จันทร์ฯ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นคนสลับเพชร ได้หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่จังหวัดระยอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามจับกุมตัวไว้ได้ จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาพบว่ามีประวัติการก่อเหตุในลักษณะเดียวกันหลายครั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดพิจิตร สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองรายให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาโดยให้การว่า ได้เป็นผู้ก่อเหตุจริงและได้ขายเพชรดังกล่าวไปแล้ว


 
ทั้งนี้เตือนภัย ผู้ค้าอัญมณี ขอให้ระมัดระวังในการซื้อขายอัญมณีทุกครั้ง โดยในการเจรจาซื้อขายขอให้สังเกตลูกค้าทุกครั้งในระหว่างที่ตรวจดูอัญมณี และควรนัดพบในสถานที่ที่ปลอดภัย รวมถึงในการเจรจาไม่ควรอยู่เพียงลำพังคนเดียว ควรมีมากกว่า 2 คน เพื่อช่วยกันตรวจสอบ เนื่องจากเราไม่อาจทราบได้ว่าลูกค้ารายใดจะเป็นคนร้ายที่อาจจะวางแผนมาก่อเหตุได้ ทั้งนี้ไม่แนะนำให้จำหน่ายอัญมณีผ่านทางช่องทางออนไลน์ เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง