วันที่ 10 พ.ค.67 นายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตหัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงกรณีรัฐบาลประกาศจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ว่า ตนเห็นประชาชนคนไทยยังยากจนลำบากอยู่จึงควรจะเป็นรัฐสวัสดิการ ทั้งนี้ ขอเสนอแนวทางต่อรัฐบาลว่า ให้ไทยจัดรัฐสวัสดิการที่ควรมีแค่ 2 รูปแบบ คือ 1.สวัสดิการเพื่อการศึกษา ให้ความรู้แก่เด็กเยาวชนและประชาชน 2.สวัสดิการด้านสาธารณสุข เพื่อให้การดูแลรักษาพยาบาล เมื่อประชาชนเจ็บป่วย

ทั้งนี้เมื่อประมาณปี 54 ตนเคยถกถึงปัญหาค่าแรงกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่สิงคโปร์ ว่าไม่เห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ เพราะต้นทุนค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพในแต่ละพื้นที่ไม่เท่ากัน ถ้าให้ค่าแรงเท่ากัน ขึ้นเท่ากัน นั่นคือหายนะอันดับแรก เพราะจะมีปัญหาตามมาคือค่าครองชีพจะสูงขึ้นทันที ทั่วทั้งแผ่นดิน และในครั้งนี้ รัฐบาลจะปรับค่าแรงขั้นต่ำขึ้นเป็น 400 บาทต่อวัน  ถามว่าแล้วใครที่ได้ประโยชน์ ตอนนี้ยังไม่สาย ถ้ารัฐบาลจะกลับมาตั้งสติใหม่แล้วคิดใหม่ รวมถึงพรรคการเมืองอีกหลายๆพรรค อย่าคิดเพียงว่า ค่าแรงนี้ มันน้อยไม่พอเพียงต่อการยังชีพ

"ผมเข้าใจว่าวันนี้ 300 บาท 400 บาทหรือ 500 บาทต่อวันก็ไม่พอเยียวยาทำให้ปากท้องอิ่มเพราะว่าข้าวของมันแพงเกินไป ผู้ผลิตเอากำไรเกินไป ระบบการเงินการคลังเราก็ล้มเหลว อะไรขึ้นนิดนึง สิ่งที่ตามมามันขยับเลย อย่างเช่น ค่าแก๊ส ค่ารถตั้งแต่สมัย 9 ปีที่แล้วช่วงรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะท่านทำให้สินค้าแพง แต่ไม่พยายามที่จะเพิ่มรายได้ด้วยการสอนให้คนรู้จักทำมาหากินนี่คือปัญหา

ขออย่ามองเรื่องค่าแรงเพียงอย่างเดียว ถ้าบอกว่าตอนนี้ต้องปรับค่าแรงเพราะค่าใช้จ่ายมันสูงขึ้น แต่การเพิ่มค่าแรง เปรียบเหมือนกับวิ่งไล่ตามเงาไม่มีวันไล่ตามค่าใช้จ่าย ข้าวของ ราคาสินค้า ที่แพงขึ้นทัน เพราะค่าแรงเพิ่มนิด แต่ค่าใช้จ่าย ราคาสินค้าก็ขยับขึ้นไปรอ ดังนั้นค่าแรงเพิ่มเท่าไหร่ก็ไม่มีทางพอ ซึ่งยังไม่เคยมีรัฐบาลไทยชุดไหนพูดถึงเรื่องการลดค่าใช้จ่าย อย่างจริงจัง ถามว่ากระทรวงเกษตร ฯและกระทรวงพาณิชย์ รับผิดชอบทำอะไรเพื่อแก้ปัญหากันบ้าง"นายอุเทนกล่าว

สำหรับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทนั้น คนมีเงินไม่เดือดร้อน แต่คนจนซึ่งเงินก็ไม่มี แต่ราคาอาหาร ข้าวของปรับแพงขึ้น ซึ่งปัญหาที่จะตามมาแน่นอน คือ ประชาชนคนไทยไม่ได้อานิสงส์จากการขึ้นค่าแรงครั้งนี้ แต่ว่าจะได้รับผลกรรมจากราคาข้าวของที่แพง แต่กลับเป็นแรงงานต่างด้าวที่ได้อานิสงส์  จากเดิมค่าแรงต่างด้าว เมื่อก่อนจะปรับค่าแรงขั้นต่ำของเพื่อไทยนั้น อยู่ที่ 140-180 บาท ถ้าวันนี้รัฐบาลคิดไม่เป็นให้ปรับค่าแรงขั้นต่ำขึ้น ซึ่งจะทำให้พวกค้าขายอาหารเขยิบราคาขึ้น ทุกอย่างขยับราคาขึ้นหมด น้ำไม่มี เงินไม่มี ของราคาแพง ถามว่าอย่างนี้ประเทศจะไม่ล่มสลายหรือ

"ถามว่าข้าวของราคาแพงขึ้นประชาชนคนไทยจะอยู่ได้อย่างไร จะเห็นว่า ในอดีตที่ผ่านมา ก๋วยเตี๋ยวราคาชามละ 30 บาท ตอนนี้ราคาชามละ 60 บาทแล้ว  ปรับค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ประชาชน คนไทยไม่ได้อานิสงส์แถมได้รับภาระเพิ่มมากขึ้น แล้วคนที่จะรวยถัดมา ก็คือเสือนอนกินทั้งหลาย ซึ่งได้แก่ ธนาคาร ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ทั้งหลาย ผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่

ขอตั้งข้อสังเกตว่าวันนี้กระทรวงพาณิชย์ตามไม่ทันผู้ผลิตรายใหญ่ซึ่งเป็นผู้กำหนดราคาสินค้าในตลาด และที่ผ่านมาไม่เคยมีสินค้าราคาแล้วลดราคาลงมา สงสัยว่าสมองตามไม่ทันหรือว่าแกล้งตาบอด หรือไม่มีอะไรมาทำให้คิดไม่ออก" นายอุเทน กล่าว

เมื่อถามว่า วันนี้รัฐมนตรีแรงงานมาจากพรรคภูมิใจไทย ไม่ใช่พรรคเพื่อไทยนั้น นายอุเทน กล่าวว่า อย่ากำหนดว่าพรรคการเมืองไหน แต่ตนพูดถึงรัฐบาล เพราะถ้าหัวไม่ส่าย หางก็ไม่กระดิก ถ้านายกฯเก่ง หางก็ไม่กระดิก สงสัยว่ารัฐบาลมีอะไรที่ถูกฝาถูกคนบ้าง  ดังนั้นอย่าไปมองเป้าเดียว  ให้มองที่องค์รวมทั้ง36 คน ว่า มีคนไหนบ้างที่มีกึ๋น จริงๆ คิดเป็นทำเป็น เฉียบขาด ต้องบอกว่าที่สำคัญคือรัฐบาลไม่เป็นมวย คิดไม่เป็น ทำไม่ได้

"เพราะฉะนั้นรัฐบาลเพื่อไทยอย่าทำร้ายประชาชนไปมากกว่านี้เลย และถ้าขืนยังจะเอาเงินให้อีกจากการแจกเงินดิจิตอล วอลเล็ต คอยดูว่าหายนะประเทศจะตามมายังไง ขอย้ำว่าขึ้นค่าแรง 400 บาท ไม่มีผลแรงงานไทยได้อานิสงส์ เพราะปัจจุบันเขารับกันมากกว่านี้ เช่นพนักงานขับรถ พนักงานขนส่งของ เขารับกัน550-750 บาทต่อวัน แล้ว แต่ถ้าขึ้นค่าแรงอีก คนไทยยังต้องรับเคราะห์เรื่องอาหารแพงขึ้น ข้าวของเครื่องใช้แพงขึ้น

ขณะที่แรงงานต่างชาติหัวเราะได้อานิสงส์ได้ปรับค่าแรงจากวันละ 140 บาท ขยับเป็น 160 และ 300 บาท ตอนนี้กำลังจะปรับ 400 บาท บ้าไปกันใหญ่ ทำให้ประชาชนคนทั้งประเทศเดือดร้อนจากภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงมากขึ้น ส่วนผู้ประกอบการร้องมีต้นทุนสูงขึ้นก็ปรับราคาของขึ้น ถามว่าราคาสูงขึ้น ทำให้ขายของได้น้อยลง และขายสินค้าแข่งขันกับประเทศอื่นก็ไม่ได้อีก ซึ่งวันนี้ทุกฝ่ายต้องลดค่าใช้จ่าย ค่าโสหุ้ยต่างๆ เพื่อให้ทั้งประชาชนและผู้ประกอบการต้องอยู่ได้" นายอุเทน กล่าวย้ำ