นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผยคืบหน้าการจัดเก็บค่าบำบัดน้ำเสีย ตามแผนเดิมที่คาดว่าจะเริ่มจัดเก็บในกรุงเทพฯ 22 เขตนำร่องช่วงต้นปี 2567 ว่า ภายหลังเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการ เช่น โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ได้ข้อเสนอแนะให้พิจารณาจัดเก็บค่าบำบัดน้ำเสียให้สอดคล้องกับระบบบำบัดน้ำเสียที่สถานประกอบการมีอยู่ เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียไว้แล้ว ขณะเดียวเดียวกัน ผู้ประกอบการจะปรับเปลี่ยนระบบเดิมที่มีอยู่ให้สอดคล้องกับแนวทางการจัดเก็บค่าบำบัดน้ำเสียของกรุงเทพมหานคร เช่น ขนาดบ่อบำบัด และระยะเวลาหน่วงน้ำ เป็นต้น

 

ดังนั้นจึงจะมีการเปิดรับฟังความเห็นในส่วนประชาชนทั่วไป เพื่อรับข้อเสนอแนะอีกครั้ง จากนั้นจึงจะทำการปรับปรุงแก้ไข ก่อนนำเรื่องเข้าสู่ขั้นตอนของคณะกรรมการพัฒนากฎหมาย ซึ่งขั้นตอนนี้อาจต้องใช้เวลา เพราะคณะกรรมการดังกล่าวมีหลายเรื่องที่กำลังดำเนินการอยู่ขณะนี้ ทำให้ไม่มีการกำหนดที่ชัดเจนในการเริ่มจัดเก็บค่าบำบัดน้ำเสียอย่างเป็นทางการ

 

ในส่วนอื่น ๆ กทม.ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว เช่น ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการสนับสนุนการปฏิบัติงานเพื่อการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียระหว่างกรุงเทพมหานคร กับ การประปานครหลวง เพื่อรับการสนับสนุนข้อมูลผู้ใช้น้ำจากการประปานครหลวง มาเป็นส่วนประกอบหนึ่งในการคำนวณค่าจัดเก็บ รวมถึง กทม. ได้ออกข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 โดยที่ผ่านมาผู้แทนของกรุงเทพมหานครและการประปานครหลวง ได้หารือร่วมกันเพื่อให้การดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างทั้ง 2 หน่วยงานเป็นไปตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 

 

สำหรับแนวทางการคิดค่าบริการบำบัดน้ำเสีย คิดจากปริมาณน้ำเสียที่ร้อยละ 80 ของปริมาณการใช้น้ำประปา คูณด้วยอัตราค่าธรรมเนียมตามประเภทของแหล่งกำเนิดน้ำเสีย แบ่งประเภทและอัตรา ดังนี้

 

1.แหล่งกำเนิดน้ำเสียประเภทที่ 2 อัตราไม่เกิน 4 บาท/ลูกบาศก์เมตร ได้แก่ (ก) หน่วยงานของรัฐหรืออาคารที่ทำการของเอกชนหรือองค์กร ระหว่างประเทศ (ข) มูลนิธิ ศาสนสถาน สถานสาธารณกุศล (ค) โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล (ง) โรงเรียนหรือสถานศึกษา (จ) สถานประกอบการ ที่มีการใช้น้ำเฉลี่ยย้อนหลังหนึ่งปีก่อนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย ไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อเดือน

 

2.แหล่งกำเนิดน้ำเสียประเภทที่ 3 อัตราไม่เกิน 8 บาท/ลูกบาศก์เมตร ได้แก่ (ก) โรงแรม (ข) โรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน (ค) สถานประกอบการ ที่มีการใช้น้ำเฉลี่ยย้อนหลังหนึ่งปีก่อนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย เกินกว่า 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อเดือน อย่างไรก็ตาม ในส่วนบ้านเรือนทั่วไป กทม.ยังไม่มีแผนจัดเก็บ