วันที่ 20 พ.ค.67 นายเอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ (17 พ.ค.67) ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คน ได้บุกมาทวงหนี้ จำนวน 45,000 บาท ที่คอนโด ซึ่ง 1 ใน 3 คน มีเจ้าหนี้ร่วมอยู่ด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้เสียหายกับเจ้าหนี้เคยเป็นเพื่อนร่วมธุระกิจกัน และได้มีการหยิบยืมเงินกันจำนวน 45,000 บาท ซึ่งทางผู้เสียหายก็ได้ชดใช้เงินไปแล้ว 10,000 บาท หนี้ก็จะเหลือ 35,000 บาท โดยระหว่างนั้นทั้งคู่ก็คบหากันมาเรื่อยๆ โดยทางผู้เสียหายก็ได้ช่วยซ่อมรถ ซ่อมบ้าน ให้เจ้าหนี้ ซึ่งก็คิดว่าจะเป็นการหักลบกลบหนี้ได้ จนกระทั้งเวลาผ่านมา 1 ปี เพื่อนที่เป็นเจ้าหนี้กลับมาทวงเงินจำนวนดังกล่าวอีกครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยพูดถึง ขนาดที่ผู้เสียหายก็คิดว่าเจ้าหนี้ยกหนี้ให้แล้ว 

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ (17 พ.ค.) เวลา 4 โมงกว่าๆ 1 ในกลุ่มผู้ก่อเหตุได้มาเคาะประตูหน้าห้อง พอตอนเปิดประตูออกไปดู ก็เห็นว่ากลุ่มพวกก่อเหตุ 3 คนพยายามที่จะวิ่งกูเข้ามา ตนก็ได้ปิดประตูแล้วก็ล็อคห้อง แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ถีบประตูพังเข้ามา จากนั้นก็ได้มีการชกต่อยกัน ซึ่งฝั่งผู้ก่อเหตุพยายามที่จะเอาทรัพย์สินมีค่าของผู้เสียหาย ซึ่งระหว่างเกิดเหตุนั้น ก็มีชายที่ชื่อว่าเบนซ์ ซึ่งจากข้อมูลทราบว่าเป็น พี่น้องที่นับถือกันกับเจ้าหนี้ ได้ติดต่อมาหาเจ้าหนี้ แล้วบอกว่าตนกำลังเดินทางมาที่เกิดเหตุ หลังจากเจ้าหนี้ทราบว่าชายคนชื่อเบนซ์กำลังจะเดินทางมา ก็ได้มีการบอกกับผู้เสียหายว่า ให้ออกไปข้างนอกดีกว่า เนื่องจากเกรงว่าจะควบคุมสถานการณ์ไม่อยู่ และอาจจะเป็นเรื่องใหญ่ หลังจากนั้นกลุ่มผู้เสียหายทั้ง 3 คนก็ได้ คุมตัวผู้เสียหายขึ้นรถ Yaris สีขาว ขับออกจากคอนโดไป ซึ่งปลายทางสถานที่อยู่ที่บริเวณท่าน้ำนนท์ โดยระหว่างทางได้มีการจอดแวะรับชายคนชื่อเบนซ์ขึ้นมาบนรถ พร้อมกับมีการพยายามใช้ เศษผ้าหรืออะไรสักอย่างคลุมหัวเพื่อไม่ให้จดจำใบหน้าได้ จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนก็ได้ ฉีกตัวออกไปและปล่อยให้ชายคนชื่อเบนซ์เป็นคนรับไม้ต่อ โดยได้มีการพาตัวของผู้เสียหายไปที่ Safe House และเริ่มกระบวนการ ทรมานข่มขู่รีดไถเงิน ซึ่งชายคนชื่อเบนซ์มีการแอบอ้างว่าตนเอง เป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยนาวิกโยธิน และเริ่มใช้วิธีการทรมานที่แปลกอย่างเช่น เล่นเกมรูเล็ต เกมที่ใช้กระสุน 1 นัดใส่เข้าไปในลูกโม่ จากนั้นก็หมุนลูกโม่แล้วเหนี่ยวไก ซึ่งเหตุการณ์นี้จบลงด้วยการผู้เสียหายได้มีการต่อรองขอผ่อนจ่าย ซึ่งจากเดิมทียอดหนี้อยู่ที่ 45,000 แต่ฝั่งของในเบนซ์ไม่สนใจว่า ก่อนหน้านี้ผู้เสียหายจะไปช่วยซ่อมรถซ่อมบ้านให้เจ้าหนี้ จึงได้คิดยอดเดิมคือ 289,000 บาท และหากถ้าเป็นการผ่อน ก็จะคิดเพิ่มเป็นอีกเท่านึง ซึ่งคิดเป็นตัวเลขกลมๆคือ 600,000 บาท โดยสร้างข้อตกลงคือให้ผ่อนชำระเดือนละ 100,000 บาท ทุกวันที่ 18 

ซึ่งเหตุการณ์นี้ฝั่งผู้เสียหายเอง มองว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากยอดหนี้เดิม 45,000 บาทตนใช้ไปแล้ว 10,000 บาทเหลือ 35,000 บาท แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าตนต้องมาใช้หนี้ ถึง 6 แสนบาท รวมทั้งถูกทำร้ายร่างกาย พร้อมข่มขู่เอาชีวิต ครั้งนี้ตนจึงอยากมาร้องให้ทางสายไหมต้องรอดช่วยติดตามตัว ผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า หลังจากได้รับร้องเรียนได้ส่งให้ทีมงานลงพื้นที่ไปดูจุดเกิดเหตุ ก็พบว่าวงกบประตูถูกพังเข้าไปจริง หลังจากนั้นก็ได้ไปตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดก็พบว่าในวันเกิดเหตุมีกลุ่มผู้ก่อเหตุมาพังประตูเข้าไปจริง นอกจากนี้จากการสอบถามชาวบ้าน ที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงก็บอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงๆ หลังจากนี้จะพาผู้เสียหายเข้าไปแจ้งความที่สนสุทธิสาร แล้วก็ประสานทางผู้กำกับให้เร่งรัดทางคดี ซึ่งเชื่อว่าตำรวจน่าจะจับตัวผู้ก่อเหตุมาได้อย่างแน่นอน