"เอกภพ" นำทีมสายไหมต้องรอด นำผู้เสียหายเคสถูกเจ้าหนี้อุ้มรีดทรัพย์ แจ้งความ สน.สุทธิสาร พร้อมพาลงพื้นที่ไปชี้จุดเกิดเหตุ

วันนี้ (20 พ.ค.) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรเทพ เฉลิมเกียรติ ผู้กํากับการ สน.สุธิสาร ร่วมกันนําตัว “หนุ่มไอที” ผู้เสียหาย ลงพื้นที่เกิดเหตุภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ซ.ลาดพร้าว 18 หลังถูกเพื่อนนําพวกบุกพังประตูห้องทวงเงินจํานวน 35,000 บาท ก่อนอุ้มไปทําร้ายร่างกายรีดเงินเพิ่มรวม 600,00 บาท 


พ.ต.อ.พรเทพ ผกก.สน.สุธิสาร กล่าวว่า หลังจากพาผู้เสียหายลงพื้นที่ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในห้องที่เกิดเหตุและพื้นที่โดยรอบตามข้อมูลที่ได้รับ เนื่องจากเหตุการณ์นี้เชื่อมโยงไปยังพื้นที่ตํารวจภูธรด้วย ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนได้แบ่งกําลังเพื่อเตรียมลงพื้นที่ตามจุดต่างๆ โดยข้อมูลที่ผู้เสียหายให้มามีประโยชน์เป็นอย่างมากทั้งชื่อและนามสกุลของผู้ก่อเหตุรวมถึงเบอร์โทรศัพท์และการจ่ายเงินโอนเงิน นอกจากนี้จะให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อนํามาประกอบในสํานวนโดยทาง นายเอกภพ จะคอยดูแลความสะดวก ทั้งนี้ยืนยันว่าพยานหลักฐานที่มีตอนนี้ค่อนข้างชัดเจนและสามารถระบุตัวบุคคลได้ครบทั้งหมด หลังจากนี้ขอให้ตํารวจทํางานเพื่อนําตัวผู้กระทําผิดมาลงโทษตามกฎหมาย

ขณะที่หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เวลาประมาณ ตี 1 กว่า มีผู้หญิงและผู้ชาย เดินทางมาที่คอนโด ซึ่งเขามีกุญแจ แต่ไม่มีคีย์การ์ด จึงไม่สามารถเปิดประตูด้านล่างได้ ตนจึงแจ้งให้เขาโทรขออนุญาตเจ้าของห้องก่อน ซี่งเขาก็โทรศัพท์และปลายสายเป็นเสียงของผู้หญิง แต่เจ้าหน้าที่จําเสียงของคุณมิวเจ้าของห้องได้ซึ่งปลายสายไม่ใช่ก่อนจะตัดสายทิ้ง สักพักโทรอีกครั้งเป็นเสียงผู้ชาย ซึ่งเป็นเสียงของคุณริวเจ้าของห้องผู้เสียหาย โดยคุณริว บอกให้เปิดห้องให้หน่อย เมื่อปล่อยขึ้นมาเริ่มเห็นความผิดปกติคือ กลุ่มผู้ก่อเหตุมีการปรับกล้องวงจรปิดของส่วนกลาง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งว่าปรับไม่ได้เพราะเป็นของส่วนกลาง จากนั้นเขาพยายามขนของออกจากห้อง แต่ตนยืนดักที่ประตูไม่ให้นําออกเพราะรู้สึกผิดปกติและทางคอนโดมีนโยบายห้ามขนของหลังเวลา 2 ทุ่ม จากนั้นเขาจึงขนของขึ้นมาเก็บที่ห้องเหมือนเดิม


ด้านผู้เสียหาย ระบุสั้น ๆว่า ขอให้ตํารวจจับคนร้ายได้โดยเร็ว ยอมรับรู้สึกกังวลเรื่องของความปลอดภัย โดยยืนยันว่าไม่มีปัญหาอื่นนอกจากเรื่องของการยืมเงินที่ตนติดหนี้ผู้ก่อเหตุ จํานวน 35,000 บาท