เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 20 พ.ค.67 นายภูมิพัฒน์ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 4 ตำบลหาดทรายรี อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร  เป็นอาสากู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์(กู้ภัยสายชลชุมพร) และนางสาววิมลรัตน์  อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/10 ตำบลท่าตะเภา อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร เป็นเจ้าหน้าที่กู้ชีพประจำศูนย์มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์  ทั้งสองนำหลักฐานใบรับรองแพทย์โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนายณัฐพลฯ เหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ
       

นายวีรยุทธ เจ้าหน้าที่ EMT แผนกบรรเทาสาธารณภัยมูลนิธิชุมพรฯ เล่าว่าเมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้(20 พ.ค.) ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์สองคันชนกัน บนถนนปรมินทรมรรคา เขตเทศบาลเมืองชุมพร จึงพร้อมด้วยนางสาววิมลรัตน์เจ้าหน้าที่กู้ชีพประจำศูนย์ฯและมีนายภูมิพัฒน์อาสากู้ภัยไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ 
       

พบมีผู้บาดเจ็บในที่เกิดเหตุเป็นเด็กนักเรียนแต่งชุดอนุบาลเป็นเพศชายและหญิง โดยมีผู้เป็นแม่อายุ 25 ปี ขับขี่โดยทั้ง 3 คนเจ้าหน้าที่กู้ภัยกู้ชีพนำขึ้นรถกู้ภัย  ส่วนอีกรายเป็นชาย ทราบว่าเป็นชายชาวเมียนมาอายุ 27 ปี เบื้องต้นพบว่าบาดเจ็บบริเวณแขนซ้ายจึงปฐมพยาบาลและนำคนเจ็บขึ้นรถกู้ชีพ โดยมีนางสาววิมลรัตน์ทำการปฐมพยาบาลอยู่บนรถ
       

ส่วนนายภูมิพัฒน์อาสากู้ภัยยืนอยู่บริเวณด้านหน้ารถกู้ชีพ โดยเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น หลังจากได้เข้าช่วยเหลือฝ่ายผู้หญิงและเด็ก ต่อมาได้ช่วยชายชาวเมียนมา ทันใดนั้นได้มีทางฝ่ายญาติคู่กรณีทราบต่อมาว่าเป็นพ่อเด็กและสามีผู้หญิง  มาในที่เกิดเหตุเข้ามาโวยวายกับฝ่ายชายชาวเมียนมา บนรถกู้ชีพและเดินไปดูอาการลูกเมียบนรถอีกคัน ก่อนจะเดินกลับมาเตะคนเจ็บที่นอนอยู่บนรถแต่พลาดไปถูกนางสาววิมลรัตน์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่นั่งปฐมพยาบาล ทำให้ได้รับบาดเจ็บบริเวณมือขวา  จนไม่สามารถทำงานได้ชั่วคราวและมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้รับความเสียหายด้วย นายภูมิพัฒน์อาสากู้ภัยบอกว่าอย่าทำ
         

หลังจากนั้นนายณัฐพลฯได้เดินปรี่ไปหานายภูมิพัฒน์ รัวหมัดชกใส่อย่างเดียวโดนหมัดมากกว่า 10 ครั้งโดยที่นายภูมิพัฒน์ไม่ได้ป้องกันอะไรเลย ซึ่งแค่โดนชกหมัดแรกก็มึนขณะนั้นตนใส่หมวกกันน๊อกไว้แต่เปิดใบหน้า ศีรษะกระแทกกับรถตลอดเวลาที่ถูกทำร้าย หลังเกิดเหตุได้ไปพบแพทย์ตรวจร่างกายและเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุแล้ว 
         

นายภูมิพัฒน์ อาสากู้ภัย เผยว่าอยากให้เข้าใจการทำงานของกู้ภัยอยากให้ลดความใจร้อนเพราะกู้ภัยอาสาเข้าช่วยเหลือคนเจ็บไม่มีเจตนาอย่างอื่นแต่กลับถูกทำร้าย และส่วนตัวไม่ได้มีเรื่องบาดหมางและไม่รู้จักกันมาก่อนเลย”