อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม-ผู้ว่าฯระยอง วอนขอโรงงานที่จะช่วยรับกากอะลูมิเนียมดรอสไปกำจัด ขณะที่อะลูมิเนียมดรอส ที่ถูกตีกลับอยู่ในถุงบิ๊กแบ็กจะเก็บไว้ที่โกดัง 3 และกองกากอะลูมิเนียมดรอส จะมีการจัดเก็บในถุงบิ๊กแบ็กทั้งหมด เพื่อไม่ให้ถูกน้ำเกิดกลิ่นเหม็น และการฟุ้งกระจายของฝุ่น 

เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีไฟไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมี ม.4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดระยอง นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง ได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาทางออกการขนกากอะลูมิเนียมดรอสไปกำจัด หลังถูกตีกลับจากโรงงานใน จ.ชลบุรี โดยถูกชาวบ้านต่อต้าน จึงต้องนำกลับมายังโรงงาน เก็บรอโรงงานใหม่นำไปกำจัด

นายจุลพงษ์ เปิดเผยว่า กากอะลูมิเนียมดรอสที่ขนไปยังโรงงานใน จ.ชลบุรี 300 ตัน ถูกต่อต้าน ก็มีการขนกลับมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว โดยขอให้ทางบริษัทฯ มีการจัดเก็บใส่ถุงบิ๊กแบ็กไว้ ขนมาแล้วจำนวน 60 ถุง ประมาณ 100 ตัน ซึ่งอยู่ในโกดัง 3 ส่วนกองกากอะลูมิเนียมดรอสอยู่โกดัง 3 เช่นกัน ก็จะมีการเร่งจัดเก็บใส่ถุงบิ๊กแบ็กทั้งหมด เพื่อไม่ใด้โดนน้ำ ป้องกันกลิ่นเห็นกระทบชาวบ้าน และจะเร่งหาบริษัทรับเหมาที่จะมาช่วยในรูปแบบ CSR หรือจิตอาสาต่อไป ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่ทราบว่าจะมีบริษัทรับเหมาใดรับไปกำจัด จนกว่าจะได้เงินจำนวน 4.6 ลบ. มาจัดซื้อจัดจ้างมาดำเนินการ ส่วนสารกัดแก้ว ขนไปยังโรงงานที่ จ.สระบุรีแล้ว 30 ตัน ก็ยังเดินหน้าต่อไปให้ครบ 400 ตัน

ด้านนายไตรภพ เปิดเผยว่า ปัญหาดังกล่าว หมักหมมมานานจนชาวบ้านขาดความเชื่อมั่นภาครัฐ ซึ่งต่อไปนี้จะเร่งแก้ไขปัญหา และประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับ ปชช. ในพื้นที่มากขึ้น ในส่วนของกากอะลูมิเนียมดรอส 300 ตัน จะถูกนำกลับมาจัดเก็บในถุงบิ๊กแบ็ก และกองอะลูมิเนียมดรอส จะจัดเก็บในถุงบิ๊กแบ็กทั้งหมด และกองกากสารเคมีที่กองเรี่ยราดในโรงงานจะถูกเก็บในถุงบิ๊กแบ็กทั้งหมดเช่นกัน ส่วนการเจรจาหาโรงงานมารับไปกำจัดก็จะมีเร่งหา ซึ่งมีทั้งโรงงานใน จ.ระยอง และนอกพื้นที่ด้วย ซึ่งจะมีการดำเนินการให้เร็วที่สุด