วันที่ 22 พ.ค. 2567 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันจันทร์ที่ 27 พ.ค.นี้ เวลา 16.00 น.จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ซึ่งจะเรียกรัฐมนตรีและหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง มาพูดคุยกัน แต่ไม่ใช่เป็นการเรียกใครมาเพื่อต่อว่า แต่จะเป็นการมาพูดคุยหามาตรการ หรือไอเดียต่างๆ ที่จะต้องทำ ตั้งแต่เรื่องนโยบายและการผันเงินผ่านกรมบัญชีกลาง  เรื่องกฎหมายระหว่างประเทศ แก้ไขปัญหาเรียกว่าเป็นการมานั่งแก้ไขปัญหากัน  เพราะผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ หรือจีดีพีโตแค่เพียง 1.5% ต่ำที่สุดในอาเซียน

เมื่อถามว่าอะไรคือสิ่งที่รัฐบาลตั้งใจในไตรมาสสี่ หลังในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตถึงมือประชาชน และคาดว่าจีดีพีจะโตขึ้นใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงมีส่วน แต่จะคอยไกลขนาดนั้นไม่ได้ ต้องเริ่มทำงานก่อน อย่างที่บอกว่าจีดีพีโตแค่ 1.5% ถ้าไม่มีภาคบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว  เราก็จะตกอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย อันนี้น่าเป็นห่วง  และยังมีอีกหลายเรื่องทั้งบัตรเครดิต หนี้เสีย และหนี้ครัวเรือน

เมื่อถามว่าจะมีโครงการระยะสั้นออกมากระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตรงนี้เป็นที่มาของการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจดังกล่าว ซึ่งต้องมานั่งคุยกัน และตนได้บอกทุกคนไปว่าเวลามาให้มีข้อมูล และมาด้วยใจที่เปิดกว้าง พร้อมกับไอเดีย ไม่ได้ให้มาเพื่อที่จะสั่งว่าต้องทำอะไร การประชุมครั้งนี้คงยังไม่มีโครงการอะไรออกมาเซอร์ไพรส์แน่นอน ต่อไปจะมีการประชุมทุกสัปดาห์ อีกทั้งยังมีการประชุมวงเล็ก ซึ่งตนอยากฟังความคิดเห็นของทุกคน จะมีทั้งภาคการค้าระหว่างประเทศ ภาคการเกษตร ภาคกฎหมาย ภาคนโยบายซึ่งต้องฟังทุกคน และมีข้อสรุปออกมา

เมื่อถามว่าเหนื่อยหรือไม่ที่ต้องแบกความหวังคนไทยทั้งประเทศ นายกรัฐมนตรี กล่าวทันทีว่า “ไม่เหนื่อยครับ เต็มที่ครับ”

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า หลังเดินทางกลับจากต่างประเทศครั้งนี้ ในวันเสาร์ที่ 25 พ.ค. และวันอาทิตย์ที่ 26 พ.ค.ตนจะลงพื้นที่ ติดตามโครงการต่างๆทั้งในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

“ยอมรับว่าการทำงานหนัก ไม่ได้พักผ่อนก็เป็นห่วงสุขภาพตัวเองเหมือนกัน พยายามดูแลตัวเอง และออกกำลังกาย เหนื่อยแต่ไม่เป็นไรเพราะเป็นการทำเพื่ออนาคตของลูกหลานรุ่นต่อๆไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว