นครพนม สาวแรงงานไทย วัย 31 ปี แฉนายจ้างอิสราเอลบังคับทำงานขณะเกิดสงคราม ยอมหนีเอาชีวิตรอดกลับไทย โร่แจ้งกระทรวงแรงงานทวงค่าจ้างเงินเดือนสุดท้าย ส่วนหนุ่มแรงงาน วัย 32 ปี เดินทางไปทำงานแค่ 15 วัน เกิดสงคราม ต้องยอมกลับไทยเอาชีวิตรอด ยอมแบกหนี้ 1.5 แสนบาท คาดหวังกลับไปทำงานอีกหากสงครามสงบ พบแรงงานไทยชาว จ.นครพนม กลับบ้านเกิดแล้วกว่า 300 ราย

            เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.นคพรนม ความคืบหน้าบรรยากาศแรงงานไทย ในอิสราเอล เดินทางกลับบ้านเกิด ยังพบว่ามีแรงงานทยอยกลับมาจากอิสราเอล เดินทางมาติดต่อขอรับสวัสดิการต่างๆ ที่สำนักงานแรงงานจังหวัดนครพนม ไม่ขาดสาย จากข้อมูลพบว่ามีแรงงานชาว จ.นครพนม เดินทางกลับบ้านเกิดแล้วกว่า 300 คน จากแรงงานจำนวนทั้งหมดที่ขึ้นทะเบียนไปทำงานประเทศอิสราเอล กว่า 2,100 คน  มีญาติมายืนยันผู้สูญหายขาดการติดต่อรวม 4 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตยังรอการยืนยันตรวจอัตลักษณ์บุคคล นอกจากนี้ยังมีแรงงานไทยอีกหลายคน ที่เดินทางมาเรียกร้องสิทธิ์ กรณียอมหนีนายจ้างกลับไทย เนื่องจากยังมีนายจ้างบางคน บังคับให้ทำงานในระหว่างเกิดสงคราม บางรายเดินทางไปทำงานไม่ถึงเดือนต้องยอมกลับไทย เพื่อเอาชีวิตรอด ทั้งที่ต้องแบกภาระหนี้สิน ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานมากกว่าแสนบาท

เช่นเดียวกันกับ น.ส.เอกวรรณ ปราบมีชัย หรือบี อายุ 31 ปี ชาวบ้านวังโพธิ์ ต.กุตาไก้ อ.ปลาปาก จ.นครพนม เปิดเผยว่า ตนได้นำเอกสารมาขอให้ติดตามเงินเดือนงวดสุดท้ายกับนายจ้าง ผ่านสำนักงานแรงงานจังหวัด กระทรวงแรงงาน  หลังจากกลับถึงไทยเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา  โดยไปทำงานประเทศอิสราเอล ผ่านกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เมื่อปี 2564 เป็นคนงานภาคการเกษตร เมืองโมซาฟ เป็นพื้นที่สีแดง ทำงาน ปลูกผลไม้อาทิ มะเขือดำ มะเขือเทศ พริก และ แอปเปิ้ล ยอมรับได้ค่าแรงสูง เดือนละ 30,000 – 40,000 บาท มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรวมเป็นหนี้ 1.5 แสนบาท ไปทำงาน 6 เดือนปลดหนี้ กำลังจะเก็บเงินมาสร้างฐานะปีสุดท้าย แต่เกิดสงครามรุนแรง ซ้ำร้ายยังถูกนายจ้างบังคับให้ทำงานขณะเกิดสงคราม จึงกังวลเรื่องความปลอดภัย ยอมติดต่อสถานทูต หาทางหนีกลับไทย ทิ้งเงินเดือนที่เหลือ พอกลับถึงไทย จึงมาติดต่อขอรับสิทธิผ่านกระทรวงแรงงาน และสวัสดิการต่างๆ

นอกจากนี้ มี นายวิวัฒน์ชัย ทองศักดิ์ หรือนิค อายุ 32 ปี ชาวบ้านม่วง ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เปิดเผยว่า ตนเดินทางไปทำงานที่อิสราเอล ได้แค่ประมาณ 15 วัน ทำงานยังไม่ทันถึงเดือนด้วยซ้ำ เกิดสงครามยิงกันหนัก หวังหาเงินใช้หนี้สินเป็นค่าเดินทางไปทำงานกว่า 1.5 แสนบาท ยังไมทันใช้หนี้แม้แต่บาทเดียว ทางบ้านขอให้กลับไทยเอาชีวิตรอด ถึงแม้จะมีภาระหนี้สิน ขอเพียงกลับมีชีวิตรอดค่อยหาทางใช้หนี้ ยอมรับว่าเสียดายค่าแรง เสียดายเงินเดือนที่จะได้รับ ถ้าสงครามสงบพร้อมจะกลับไปทำงานในประเทศอิสราเอลอีก