จากกรณีพบศพนายชูเชียง เฉิน อายุ 48 ปี ชาวไต้หวัน สภาพนอนคว่ำหน้าสวมเสื้อยืดคอกลมสีฟ้า กางเกงขาสั้นสีดำ ที่ปากถูกปิดด้วยสกอตช์เทปใสหลายรอบ มือ 2 ข้างถูกมัดไพล่หลังด้วยเชือกฟางและสกอตช์เทปใสคาดด้วยเข็มขัดมัดรอบตัว หน้าแข้งถูกรัดด้วยเข็มขัด ข้อเท้าถูกมัดด้วยสกอตช์เทปใสหลายรอบ เหนือคิ้วขวาถูกตีด้วยของแข็งเป็นแผลฉกรรจ์ ผ้าปูที่นอนเปื้อนเลือด และมีผ้าขนหนูเปื้อนเลือดที่พื้นอีก 2 ผืน ส่วนภายในห้องพบตู้เซฟขนาดย่อม 2 ตู้ วางอยู่บนพื้น กระเป๋าเดินทาง 2 ใบ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. , พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. สั่งการให้ บช.น. เร่งรัดสืบสวนและจับกุมคนร้ายโดยเร็วเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์และเป็นที่สนใจของประชาชน
ล่าสุด วันที่ 17 พ.ย.66 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต วิทวัส ชินคำ ผบก.น.5 พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รอง ผบก.ตม.1 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ปนาถพล ปุณศรี รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รรท ผกก.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ศิรณวิชญ์ อินทร ผกก.สืบสวน บก.น.5 พ.ต.อ.สุรพงษ์ สุขแย้ม ผกก.สน.บางนา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบนครบาล สืบ บก.น.5 สืบ บางนา บช.ท่องเที่ยว และตม.1 สตม. ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายเจนซี่ อายุ 21 ปี ชาวเมียนมา ตามหมายจับของศาลอาญาพระโขนง ที่ จ. 696/2566 ลง 17 พย 2566 และนายจอห์น อายุ 40 ปี ชาวแคเมอรูน ตามหมายจับของศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.697/2566 ลง 17 พย 2566 โดยกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ว่า ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา สามารถทำจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 1 และผู้ต้องหาที่ 2 ได้ที่ บริเวณถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตบางนา กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 เวลาประมาณ 10.30 น. ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สน.บางนา ว่ามีเหตุชายเสียชีวิตที่ ห้องเลขที่ 618 โรงแรมแห่งหนึ่ง ถนนอุดมสุข ซอย 17 แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร จึงแจ้งผู้บังคับบัญชาให้ทราบแล้วเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่ห้องเลขที่ 618 พบว่า นายชู เชียง เฉิน นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้อง ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า นายชู เชียง เฉิน ได้เข้าพักที่โรงแรมเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 เวลาประมาณ 13.30 น.โดยแจ้งเข้าพักคนเดียว และต่อมาได้มีเพื่อนคนตายได้โทรมาถามที่เคาว์เตอร์โรงแรมว่าติดต่อ นายชู เชียง เฉิน ไม่ได้ ขอให้โรงแรมตรวจสอบ ทางโรงแรมจึงได้ให้พนักงานตรวจสอบ เมื่อเปิดประตูห้องมาพบว่า นายชู เชียง เฉิน นอนเสียชีวิตในท่านอนคว่ำถูกมัดมือ มัดเท้า อยู่ภายในห้องพักดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองพิสูจน์หลักฐานกลางและแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ฯ มาร่วมตรวจที่เกิดเหตุ
และต่อมาชุดสืบสวนนครบาล สืบบก.น.5 สน.บางนา และ ตม.1 ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ก่อนเกิดเหตุพบว่ามี นายเจนซี ผู้ต้องหาที่ 1 ได้เข้าห้องเลขที่ 618 และมีบุคคลอื่นด้วย โดยมีพฤติการณ์เข้าเดินเข้า-ออก ระหว่าง ห้องเลขที่ 618 ชั้น 6 กับ ห้องเลขที่ 507 ชั้น และต่อมาเจ้าหน้าตำรวจชุดสืบสวนได้สืบสวนผู้ต้องหาที่ 1 อยู่ที่อพาร์ทเมนต์ ถ.ราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร จึงได้เดินทางไปตรวจสอบห้องพักดังกล่าว เมื่อไปถึงพบ ผู้ต้งหาที่ 1 จึงเชิญตัวมาที่ สน.บางนา
นายเจนซี่ ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การปฏิเสธ โดยให้การว่า ได้สมัครงานผ่านทางออนไลน์ที่โพลต์หาคนสนใจทำงานสอดแนม สะกดรอย ถ่ายรูป จากหญิงไทย โดยนัดหมายกันที่ ร้านกาแฟ ห้างดัง แถวฝั่งธนบุรี โดยได้ร่วมก่อเหตุกับชายคนผิวสี ผู้ต้องหาที่ 2 และชาวยุโรปผิวขาว รวม 3 คน เป้าหมายเพื่อเอาทรัพย์สินของผู้ตาย เนื่องจากหญิงไทยผู้สั่งการแจ้งว่า ผู้ตายมีทรัพย์สินจำนวนมาก และมีประวัติอาชญกรรม ต่อมาผู้ต้องหาที่ 1 ได้เปิดห้องพักโรงแรงที่เกิดเหตุเพื่อเฝ้าติดพฤติกรรมของผู้ตาย จนกระทั่งวันที่ 16 พฤศจิกายน 66 เวลาประมาณ 01.00 น. ผู้ต้องหาที่ 1 ผู้ต้องหาที่ 2 และ ชาวตะวันตก เข้าไปในห้องพักของผู้ตาย โดยชาวตะวันตกเป็นผู้จับผู้ตาย ผู้ต้องหาที่ 1 เป็นผู้จับมัดด้วยเทป และเข็มขัดกับผู้ตาย โดยผู้ต้องหาที่ 2 มีหน้าที่ดูต้นทางด้านหน้าประตู จากนั้นได้รื้อค้นหาทรัพย์สิน แต่ไม่พบเงิน จึงนำเอาเครื่องคอมพิวเตอร์แบบโน๊ตบุ๊ก และเครื่องโทรศัพท์ หลบหนีไป และก่อนออกจากห้องผู้ตายยังไม่เสียชีวิตแต่อย่างใด
ผู้ต้องหาที่ 2 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า เป็นครูสอนภาษา ส่วนผู้ต้องหาอีกคนเป็นคนผิวขาว ไม่ทราบสัญชาติ ปรากฎตามภาพวงจรปิด ได้มีประกาศสืบจับหรือหมายจับไว้แล้ว
