“สีคิ้วโมเดล”กับการเดินตามพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่ฯ (จบ) นางจิตโสมนัส ชัยวงษ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีโครงการผลิตภัณฑ์อาหารพื้นบ้านที่เป็นสมุนไพรที่จัดการเรียนการสอนเพื่อให้เป็นทางเลือกด้านอาชีพในเวลาเดียวกันก็เป็นการสืบสานฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทั้งป่าและน้ำไปพร้อมกัน เนื่องจากผลิตภัณฑ์นี้เป็นสุนไพร จึงต้องรักษาป่าสมุนไพรไว้ ผลิตภัณฑ์ที่ว่านี้คือ “น้ำแกงเปรอะสมุนไพร”พร้อมปรุงบรรจุกระป๋อง สมุนไพรที่ต้องใช้คือหอม พริก ตะไคร้ กระชาย เมื่อจะรับปรุทานเอาไปปรุงด้วยเห็ด หน่อไม้ ข้าวโพดอ่อน ฟักทอง บวบ ชะอมเป็นต้นน่าจะใส่ปลาย่างได้ด้วย แล้วส่วนประกอบสำคัญขาดไม่ได้คือน้ำใบหญ้านาง ทั้งหมดล้วนมีคุณค่าทางโพชนาการสำหรับผู้รักษ์สุขภาพ เป็นวิธีถนอมอาหารที่เก็บรักษาไว้ได้นานถึง 1 ปี แล้วก็ยังมีโครงการผลิตไวน์ผลไม้ น้ำนมข้าวโพด การเลี้ยงปลาดุก เป็นต้น ได้คุยกับนักเรียนนักศึกษาเช่น นส.สุดรัตน์ คิดจารัมย์ ปวช.1แผนกวิชาอุตสาหกรรมเกษตรเป็นคนอำเภอสูงเนิน นายเอกสิทธิ์ บุญมาปวช.2 แผนกเดียวกัน เป็นคนสีคิ้วนี่เอง เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ผลิตน้ำนมข้าวโพดบอกว่าเป็นโครงการที่นักเรียนเสนอเพื่อหารายได้ระหว่างเรียน โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษาและสอนสูตรโดยใช้ข้าวโพดพันธุ์ซูเปอร์หรือข้าวโพดหวานขนาด 5 ฝักต่อกิโลๆละ 30 บาท ทำสัปดาห์ละครั้งๆละ 20 โลผลิตได้ 300 ขวด ขายขวดละ 10 บาท กลุ่มทำร่วมกันศึกษาเรียนรู้และลงมือทำน้ำแกงเปรอะสมุนไพรอย่างนายพรพิพัฒน์ พิมพ์จัตุรัส เป็นคนอำเภอเทพรักษ์ นครราชสีมาแล้วก็นายไกรสิทธิ์ สัวประโคน อยู่อำเภอเมืองบอกว่า แกงเปรอะเป็นอาหารท้องถิ่น เป็นภูมิปัญญาในการถนอมอาหารแล้วก็เป็นอาหารสมุนไพร มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เป็นผลผลิตที่ทำให้เกิดการรักษาป่า น้ำที่เป็นทรัพยากรธรรมชาติให้ดำรงรักษาไว้ แล้วยังทำให้ชาวบ้านได้มีโอกาสรักษาทรัพยากรธรรมชาติ แล้วก็มีอาหารมีรายได้จากทรัพยากรนั้น โดยเมื่อเอามาเป็นอาชีพทางเลือกหนึ่งก็เท่ากับเป็นสืบสานรักษาภูมิปัญญาด้านการถนอมอาหารของเราไว้ ทำให้มีอาหาร มีรายได้มีงานทำ โดยปัจจุบันเอาเทคโนโลยีเข้ามาปรับปรุงพัฒนาคุณภาพ ประสิทธิภาพ อันนี้เป็นหลักการตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงเลย นักเรียนนักศึกษานอกจากได้ความรู้มีความสามารถเพื่อที่จะนำเป็นเครื่องมือไปสู่การประกอบอาชีพขณะที่เรียนก็ทำให้มีรายได้ “ทุนเฉลี่ย 28 บาท ขายราคาที่วิทยาลัย 35 บาทต่อกระป๋อง” ทั้งกลุ่มช่วยกันแจง ด้านเลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษาดร.สุเทพ ชิตยวงษ์(เลขาธิการกอศ.)ให้สัมภาษณ์ว่าเมื่อได้รับมอบนโยบายต้องทำงานให้เต็มที่ วันนี้ได้ข้อมูลหลากหลายที่จะเอากลับไปวางแผนเพื่อให้ผู้ปกครองพ่อแม่ของเยาวชนที่จะเลือกส่งลูกหลานเข้าศึกษาในวิทยาลัยสังกัดอาชีวะเมื่อจบแล้วไม่ตกงานแน่นอน แล้วขณะเรียนยังมีรายได้อีก ผ่อนภาระค่าใช้จ่ายพ่อแม่ผู้ปกครองได้ด้วย “การจัดการเรียนการสอนของอาชีวะต้องพัฒนาคุณภาพเด็กให้มีคุณภาพเป็นกำลังของครอบครัวของสังคมได้อย่างแท้จริงคือมีความรู้ความสามารถเชี่ยวชาญแล้วยังเป็นคนดีมีความซื่อสัตย์ขยันอดทน ไม่โลภ ด้วยเพราะจะถูกหล่อหลอมปลูกฝังการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชพระราชทานไว้ให้เป็นแนวทางที่เรียกว่าศาสตร์พระราชาเพื่อประโยชน์ใช้เพิ่มพูนปัญญาความสามารถตามแต่ละวิถี โดยให้ผู้เกี่ยวข้องรับผิดชอบเช่นผู้บริหารวิทยาลัยโดยการประสานกันทุกภาคส่วนดูแลเยาวชนอย่างใกล้ชิด แล้วที่ต้องตระหนักคือให้โอกาสเยาวชนในครอบครัวด้อยโอกาส ยากจนได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างทั่วถึง” เลขาธิการกอศ.กล่าวอีกว่า ต้องย้ำให้ประชาชนรู้ว่าส่งลูกหลานเรียนอาชีวะแล้วมีงานทำแน่นอนนี่ย้ำเลย ฯพณฯนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาบอกด้วยว่าเรียนอาชีวะมีคุณค่า เพราะจะถูกสอนย้ำให้เดินตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงฯ “ในการศึกษาสายเกษตรอาชีวะมีความมุ่งมั่นต้องสร้างเยาวชนเป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์รวมถึงเกษตรกรตัวจริงก็จะได้ร่วมกันศึกษาเรียนรู้การพัฒนาเพื่อเป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ไปด้วยกันกับลูกหลาน โดยการปลูกฝังหัวใจคุณธรรมไม่มุ่งที่จะโลภอยากรวยเท่านั้น เกษตรอาชีวะน้อมนำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอันเนื่องมาจากพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลที่9 รวมถึงน้อมนำแนวพระราชดำรัสของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่10 ที่พระราชทานไว้สำคัญคือมีงานทำ มีทัศนคดติที่ดี โดยทรงเน้นย้ำให้เดินตามรอยพระยุคลบาทแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่9” นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการ กอศ.กล่าวสรุป ข่าวที่เกี่ยวข้อง ทรงสร้างประโยชน์สุขสู่ปวงประชา : “สีคิ้วโมเดล”กับการเดินตามพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่ฯ (3) ทรงสร้างประโยชน์สุขสู่ปวงประชา : “สีคิ้วโมเดล”กับการเดินตามพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่ฯ (2) ทรงสร้างประโยชน์สุขสู่ปวงประชา : “สีคิ้วโมเดล”กับการเดินตามพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่ฯ (1)