จับตาประชุมบอร์ด “ดิจิทัลวอลเล็ต” วันนี้ “ศิริกัญญา” เชื่อประชุม “คกก.ชุดใหญ่” ไม่มีอะไรคืบหน้า ซัด 6 เดือน งานขับเคลื่อนล่าช้า-นโยบายสะเปะสะปะ  “โพล”เผยคนส่วนใหญ่ไม่กังวลคำเตือน “ป.ป.ช.”  ปมแจก 10,000 บาท  แต่บอกให้ “เศรษฐา” หยุดทำต่อ

ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 14 ก.พ.67 น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมของคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ ว่า ตนไม่คาดหวังว่าจะได้ความคืบหน้าอะไร เนื่องจากในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ผ่านมา ไม่ได้มีมติเกี่ยวกับการรับทราบรายงานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เนื่องจากยังคงต้องเวียนให้หน่วยงานต่างๆ ให้ความเห็นกันมาก่อน ดังนั้นคาดว่าการประชุมจะมีเพียงมติให้ฟังความเห็นจากหน่วยงานต่างๆ ในเรื่องภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ดังนั้นคงต้องใช้ระยะเวลาอีกสักพักกว่าจะมีความคืบหน้าเพิ่มเติมขึ้นมา ซึ่งตั้งแต่มีรัฐบาลมา เป็นระยะเวลามากกว่า 6 เดือนแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรเพิ่มจากวันแรกสักเท่าไหร่ ตนรู้สึกว่าล่าช้าเนินนาน จึงอยากให้รัฐบาลรีบตัดสินใจและเดินหน้าสักทาง


น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า เมื่อลองดูแผนที่รัฐบาลบอกว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เราก็ยังคงไม่รู้สึกว่าเศรษฐกิจถูกกระตุ้นให้มีความคึกคักหรือมีชีวิตชีวา ส่วนการลดราคาน้ำมัน-ค่าไฟฟ้า ก็เริ่มหมดอิทธิฤทธิ์หรือผลกระทบแล้ว ส่วนเรื่องแก้หนี้ ยังคงเป็นช่วงเริ่มต้นการเจรจาเอฟทีเอ จึงยังไม่มีอะไรที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมสักอย่าง หรือจะรอความหวังจากงบประมาณปี 67 หรือไม่ อย่างไรก็ตาม เรามีส่วนในงบกลางที่สามารถใช้ไปพลางก่อน และมีการอนุมัติไปเรียบร้อย โดยที่สามารถนำมาหยิบใช้ได้เลย แต่เรายังไม่เห็นสัญญาณว่าจะมีโครงการอื่นๆ ขึ้นมา


“ดิฉันคิดว่าประชาชนตั้งหน้าตั้งตารอว่ารัฐบาลเพื่อไทย ที่มีชื่อเสียงด้านการทำให้เศรษฐกิจโตดี จะมีกุลมิตรอะไรที่จะกู้เศรษฐกิจในยามนี้ก่อนที่จะมีโครงการดิจิทัลวอลเลต ซึ่งไม่รู้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เมื่อเป้าหมายไม่ชัด ไม่นิ่ง พอถึงเวลาทำงานจริงเลยสะสมปนกันไปหมด หลายโครงการและนโยบายก็คิดไม่ทันตอนที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา และค่อยๆ งอกขึ้นออกมาเรื่อยๆ ทำให้การผลักดันหรือการขับเคลื่อนเป็นไปล่าช้า”


ด้าน ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง "คำเตือน ป.ป.ช.นโยบายการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต" โดยเมื่อถามถึงความกังวลของประชาชนต่อคำเตือนของ ป.ป.ช. เกี่ยวกับนโยบายการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต พบว่า ตัวอย่าง 40.76% ระบุว่า ไม่กังวลเลย รองลงมา 23.74% ระบุว่ากังวลมาก 22.90% ระบุว่า ค่อนข้างกังวล 11.68% ระบุว่าไม่ค่อยกังวล และ 0.92% ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจและเมื่อถามถึงสิ่งที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ควรทำเกี่ยวกับนโยบายการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต จากคำเตือนของ ป.ป.ช. พบว่า ตัวอย่าง 29.54% ระบุว่าควรหยุดการดำเนินการในนโยบายนี้ได้แล้ว รองลงมา 28.55% ระบุว่า ดำเนินการโยบายต่อไป แต่หาทางป้องกันปัญหาตามคำเตือนของ ป.ป.ช. 21.75% ระบุว่า แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตเฉพาะกลุ่มที่เปราะบางทางเศรษฐกิจ ตามคำแนะนำของ ป.ป.ช. 14.66% ระบุว่า ไม่ต้องสนใจคำเตือนของ ป.ป.ช. และให้ดำเนินนโยบายต่อไป ตามที่ได้ประกาศไว้ และ 5.50% ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ