ผบช.ไซเบอร์ นำทัพบุกเมืองรถม้า ตัดวงจรเว็บพนัน จับบริษัทส่งเอสเอ็มเอสชวนเล่นพนันออนไลน์ รวบเจ้าของเว็บพนัน รับทำมานาน 7 ปี เงินหมุนเวียนกว่า 700 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผบช.สอท. พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4. พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2บก.สอท.4 พ.ต.อ.สุบรรณ โชคพิมพา ผกก.1บก.สอท.4  สนธิกำลัง พล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผบก.ภ.จว.ลำปาง พ.ต.อ.คมสัน สอาดล้วน รองผบก.ภ.จว.ลำปาง พ.ต.อ.คมสันต์ บำรุงยศ ผกก.สภ.เมืองลำปาง นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดลำปาง ที่ ค.61-63 ลงวันที่24 เม.ย. เข้าตรวจบ้านในหมู่ 17 ต.บ่อแฮ้ว จ.ลำปาง และ ต.บ่อแฮ้ว จ.ลำปาง  พร้อมเข้าจับกุมน.ส.ปุณิกา (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ จ.593/2567 ลงวันที่ 27 เม.ย. น.ส. ปรารถนา (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ จ.594 /2567 ลงวันที่ 27 เม.ย.ในฐานความผิด"ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นหรือทําอุบายล่อช่วยประกาศการโฆษณา หรือชักชวน โดยทางตรงหรือ ทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันซึ่งมิได้รับอนุญาตและร่วมกันฟอกเงิน"  และจับกุมแอดมิน ดูแลการตลาด 4 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางบ้าน 3 หลัง รถยนต์ 4 คัน รถจยย.4 คัน เงินสดกว่า 2 แสนบาท เครื่องเพชรและกระเป๋าแบรนด์เนมจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท

พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า ตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ได้กำชับการปฎิบัติให้บช.สอท. เร่งปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ โดยให้มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรมภายใน 30 วัน ประกอบกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ ร้อง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร., ได้สั่งการให้ทุกหน่วยระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกรูปแบบ ทางบช.สอท.จึงได้ดำเนินการ แกะรอยพบเว็บไซต์  หนุึ่ง ได้จัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ หรือโฆษณาชักชวนให้เล่นการพนันออนไลน์โดยผิดกฎหมาย   จึงได้ทำการตรวจสอบจนพบว่ามีการใช้บ้านทั้งสามหลังเป็นที่ทำการ  จึงนำกำลังเข้าตรวจค้น ก็พบผู้ต้องหาทั้งสองราย และแอดมินกำลังโต้ตอบกับลูกค้า รวมทั้งตรวจสอบบ้านทั้งสามหลังว่ามีการเปิดเป็นร้านขายของซำบังหน้าตบตาเจ้าหน้าที่ และมีการทำห้องลับภายในห้องนอนเป็นห้องควบคุมสั่งการของเจ้าของเว็บพนันด้วย

พล.ต.ต.จิตติพนธ์  กล่าวว่า จากการสอบสวนให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาทั้งสองเคย ทำงานเป็นพีอาร์ต้อนรับลูกค้าที่คาสิโนฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ก่อนกลับมาที่ประเทศไทย กระทั่งทางน้องเขยเห็นลู่ทางในการทำเงินจึงชักชวนและติดต่อเจ้าของเว็บพนันที่ฝั่งกัมพูชาเพื่อขอซื้อแฟรนไชส์มาเปิดทำเอง และมีหุ้นส่วนเป็นเจ้าของเว็บพนันที่ฝั่งกัมพูชา โดยทำมา 7 ปี ได้ค่าคอมมิสชั่น10-20 % จากยอดเงินที่ได้จากเว็บพนัน มีลูกค้ากว่า 5 พันคน ซึ่งเป็นทั้งคนไทยและคนกัมพูชามีเงินหมุนเวียนกว่า 700 ล้านบาท   ขณะที่แอดมินทั้งสามคน ได้ค่าจ้าง 8,000-14,000 บาทในส่วนผู้ต้องหาอีกหนึ่งรายคือ  น.ส.กชกร (สงวนนามสกุล)อายุ 28 ปี พบว่าเป็นบัญชีม้า ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี

เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นหรือทําอุบายล่อช่วยประกาศการโฆษณา หรือชักชวน โดยทางตรงหรือ ทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันซึ่งมิได้รับอนุญาตและร่วมกันฟอกเงิน ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะเดียวกันกำลังอีกชุดได้นำหมายค้นศาลจังหวัดลำปางและศาลจังหวัดเชียงใหม่ เข้าทำการตรวจค้น บริษัทจำกัดแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดลำปาง และบจก.ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ หลังสืบทราบว่า ให้บริการรับส่งข้อความเอสเอ็มเอส ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต โดยมีการส่งข้อความในลักษณะโฆษณา ชักชวน หรือเชิญชวน ให้เข้าเล่นเว็บไซต์พนันออนไลน์  ก่อนดำเนินคดีกับเจ้าของบริษัทดังกล่าว ในความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาต”  ซึ่งในส่วนบจก.แห่งหนึ่ง พบว่ามีการส่งข้อความปีละ 1,000 ล้านข้อความ มีรายได้ต่อปี 100 ล้านบาท ขณะที่บจก.แห่งนี้มีการส่งข้อความปีละ 40 ล้านข้อความ รายได้ต่อปี 4 ล้านบาท อย่างไรก็ตามปฎิบัติการนี้เป็นปฎิบัติการเชิงรุกในการตัดวงจรพนันออนไลน์ ซึ่งเป็นต้นตอชักชวนให้มีการเข้าถึงเว็บพนัน  ซึ่งจากนี้ทางบช.สอท.จะนำแผนประทุษกรรมนี้โดยจะจับกุมเว็บพนัน บริษัทยิงเอสเอ็มเอสชักชวน รวมไปทั้งเครือข่ายต่างๆต่อไป