สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 30 ม.ค.67 ผู้เสียหายมีแผนจะเดินทางไปประเทศแคนาดา จึงได้เข้าอินเตอร์เน็ตค้นหาตั๋วการเดินทางของการบินไทยด้วยโทรศัพท์มือถือ ต่อมาพบโฆษณาโปรโมชันตั๋วลดราคาของการบินไทย จึงได้คลิกเข้าไปยังหน้าเว็บไซต์ดังกล่าว ซึ่งเป็นเว็บไซต์ปลอม โดยระบบให้แอดไลน์เพื่อสมัครโปรดังกล่าว บัญชีไลน์ใช้ชื่อว่า “Thai Airway” ต่อมามิจฉาชีพโทรหาผู้เสียหายผ่านไลน์แล้วแจ้งว่า มีตั๋วไปกลับฟรี 1 สิทธิ์ต่อ 1 ท่าน และมีจำนวนจำกัดเพียง 100 สิทธิ์เท่านั้น หากต้องการโปรโมชันดังกล่าว ต้องติดตั้งแอปฯ และสมัครเป็นสมาชิก

ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงส่งลิงก์สำหรับติดตั้งแอปฯการบินไทย ซึ่งเป็นแอปฯปลอม ให้ติดตั้งและกรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ และให้ตั้งรหัสผ่านของแอปฯ พร้อมกับยืนยันตนเองโดยกรอกข้อมูลตามที่มิจฉาชีพบอก และให้ผู้เสียหายสแกนใบหน้า จำนวน 2 ครั้ง โดยที่ผู้เสียหายไม่ได้สงสัยอะไร เพราะเข้าใจว่ากำลังสนทนากับพนักงานของสายการบิน

หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนเรียบร้อย มิจฉาชีพแจ้งให้รอรับบัตรสมาชิกตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ ผู้เสียหายจึงปิดแอปฯ และทำงานตามปกติ ต่อมาประมาณ 23.00 น. ผู้เสียหายได้หยิบโทรศัพท์มาดู พบว่ามีเงินถูกโอนออกจากบัญชีไปจำนวน 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1,191,971 บาท ผู้เสียหายจึงรู้ตัวว่าถูกมิจฉาชีพหลอกลวง จึงได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน

ต่อมา พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 เร่งสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าว จนสามารถออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง และเข้าจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้ 2 ราย ได้แก่ น.ส.พรพิลัย อายุ 35 ปี จับกุมได้ที่บ้านพักพื้นที่ ม.3 ต.ท่าโพธิ์ศรี อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี และ นายสมคิด อายุ 51 ปี จับกุมได้ที่บ้านพักในพื้นที่ ม.8 ต.ทองหลาง อ.บ้านนา จ.นครนายก ในความผิดฐานฐาน "ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชนและร่วมกันเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน"